“ก้อมก้อขาว - อีตู่ – มังลัก – Ci Rohae Chi Kra Chi - Cein Thue - Cay Hal-Khong” ชื่อเหล่านี้ล้วนหมายถึง ‘แมงลัก’ ทั้งนั้นค่ะ โดยผักใบเล็กๆ ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีเอเชียแล้วกระจายพันธุ์ไปยังเขตร้อนตามทวีปต่างๆ ของโลก โดยมีอยู่หลายสายพันธุ์ แต่ในบ้านเรามีเพียงสายพันธุ์เดียว คือ “ศรแดง”
แมงลักเอาไปทำอะไรบ้าง?
แน่นอนว่าใช้เป็นส่วนผสมในอาหารอย่างห่อหมก แกงเลียง แกงอ่อม แกงคั่ว ขนมจีนน้ำยา แกงหน่อไม้ แต่เน้นๆ คือเป็นอาหารอีสานที่นิยมนำใบแมงลักมาประกอบอาหาร ส่วนเมล็ดก็นำมาใช้ทำเป็นขนมหรือนำไปผสมกับเครื่องดื่มก็ได้ เช่น น้ำเต้าหู้ น้ำขิง หรือ น้ำใบเตย
ที่หลายคนคุ้นเคยกันมากๆ คือ ผลแมงลักที่เรียกกันว่า “เม็ดแมงลัก” นิยมใช้เป็นยาระบายชนิดเพิ่มกาก เนื่องจากเปลือกผลมีสารเมือก ซึ่งสามารถพองตัวในน้ำได้ 45 เท่า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินอาหารที่มีกาก โดยใช้ผลแมงลัก 1-2 ช้อนชา แช่น้ำ 1 แก้ว จนพองตัวเต็มที่ กินก่อนนอน แต่ค่ะแต่...ถ้าพองตัวไม่เต็มที่จะทำให้ท้องอืดและอุจจาระแข็งนะคะ
แมงลัก มีประโยชน์ขนาดไหน?
ใบแมงลัก 100 กรัม ให้พลังงาน 32 แคลอรี พร้อมกับสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ วิตามิน A B1 B2 B3 วิตามิน C แคลเซียม ฟอสฟอรัส และ ธาตุเหล็ก
นอกจากนี้ ใบแมงลัก ยังมีวิตามิน B3 และ วิตามิน C ช่วยให้ผิวพรรณมีความชุ่มชื้น ดูกระจ่างใส และ ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร โดยใบแมงลัก 100 กรัม จะมีวิตามิน C มากถึง 78 มิลลิกรัม
ใบแมงลัก ยังช่วยบำรุงเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง เพราะมีธาตุเหล็กสูง จึงมีส่วนช่วยในการบำรุงเลือด แล ป้องกันโรคโลหิตจาง พร้อมกันนี้ ยังมีส่วนช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม เพราะมีวิตามิน A มากถึง 10.6 กรัม จึงช่วยให้มองเห็นทั้งกลางวันและกลางคืนได้ดี และยังป้องกันความเสื่อมของเซลล์ประสาทตา ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม (AMD)ในผู้สูงอายุได้อีกด้วย
ขอปิดท้ายประโยชน์เจ๋งๆ อีกนิดหน่อย นั่นคือ ใบแมงลัก มีแคลเซียม ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน โดยในใบแมงลัก 100 กรัม จะมีแคลเซียมมากถึง 350 มิลลิกรัม และยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานปกติ จากความที่มีเส้นใยหรือไฟเบอร์สูง ทำให้เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ถ่ายอุจจาระได้ง่าย ลดการหมักหมมของเสียในลำไส้ และ ลดโอกาสดูดซับสารพิษจากของเสียกลับเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งทำให้ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ลดลงตามไปด้วย
คุณค่าทางโภชนาการ