ถึงแม้จะมั่นใจเต็มร้อยยกกำลังล้านว่าตู้เย็นของคุณควบคุมอุณหภูมิได้ดี หรือแม้แต่ข้างกล่องที่แพ็คไปจะระบุบอกว่า BBF หรือ Best Before ตามด้วยวันที่ใดๆ แต่ถ้าคุณยังคงคาตู้เย็นไว้ ผักและผลไม้สดนั้นก็มีวันหมดอายุให้บริโภค
มาดูสัญญาณบอกเหตุกันค่ะว่า สภาพแบบไหน สิ่งแปลกปลอมใดที่จะเป็นตัวบอกคุณว่า หยิบออกจากตู้แล้วทิ้งลงถึงขยะเสียเถอะ
กลิ่นไม่ดีชวนให้แหวะ
จากที่เป็นกลิ่นหอมๆ ตามธรรมชาติเมื่อตอนหยิบขึ้นมาดอมดม เปลี่ยนเป็นกลิ่นตุๆ บอกไม่ถูกว่าแปลกยังไง ให้รู้เลยในตอนนั้นว่า หยุด! คิดจะไปต่อได้เลย เพราะไม่ใช่แค่เนื้อสัตว์เท่านั้นที่กลิ่นไม่ดีคือสัญญาณอันดับหนึ่ง แต่ผลไม้เอง เวลาเน่าหรือไม่น่าจะกินได้แล้ว ก็ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน
สีที่เปลี่ยน
จริงอยู่ที่การเปลี่ยนสีอาจไม่ใช่สัญญาณของการเน่าเสียเสมอไป เพราะผลไม้ที่เปลี่ยนจากดิบไปเป็นสุก สีเปลือกย่อมเปลี่ยนไป หรือแม้แต่อาหารบางอย่างเมื่อโดนอากาศก็จะเปลี่ยนสี แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยที่จะกิน แต่ถ้าผักสดเปลี่ยนสีเมื่อไหร่ละก็ ทิ้งลงถังขยะได้เลย
เมือกเยิ้ม
ผลไม้ก็มีเมือกไหลเยิ้มออกมาได้ เพราะหากมีอาการปริ แตก เกิดแผล เมือกความหวานที่ทำปฏิกริยาใดๆ ก็เป็นสัญญาณบอกว่า อย่ากินเด็ดขาด เพราะอาหารนั้นเสียแล้วแน่นอน
เชื้อราคลุม
ถึงจะแช่ไว้ในตู้เย็นก็มีเชื้อราขึ้นได้นะคะ แต่ตรงนี้ต้องลองสังเกตให้ดี เพราะเชื้อราส่วนใหญ่จะเริ่มจากจุดเล็กๆ จึงแผ่อาณาเขตครอบคลุมไปทั่ว ดังนั้นเห็นเพียงจุดเริ่มต้นของเชื้อราก็ควรทิ้งอาหารเหล่านั้นไปได้แล้ว นอกจากนี้ ถ้าเริ่มนำผลไม้ หรือผักใส่กล่องไว้ ให้สังเกตสภาพแวดล้อมเสมอ เพราะบางทีเชื้อราก็อาจซ่อนตัวตามมุมกล่องก็เป็นได้
ผิวภายนอกเปลี่ยน
หากผิวด้านนอกของผักหรือผลไม้นุ่ม มีรอยบุ๋มหรือเว้า แม้แต่ผิวเริ่มย่นจงตัดใจเช่นกัน เว้นเสียแต่ผลไม้บางประเภทอย่างแอปเปิ้ลหรือกล้วย ที่เมื่อนิ่มลง เราอาจยังไม่ต้องทิ้ง หากแต่สามารถนำไปต่อยอดทำเป็นส่วนประกอบทำขนมหรือแยมได้
ก่อนหยิบผักหรือผลไม้ออกจากตู้เย็นหรือที่เก็บของคุณ อย่าลืมตรวจเช็คเสมอ ว่ามีสัญญาณเหล่านี้หรือไม้ หากมั่นใจว่าผ่านทุกข้อ ก็อิ่มอร่อยได้เลยค่ะ