“แครอท” ผักหัวที่ไม่ได้มีแค่สีส้ม

แครอท พืชในตระกูลผักชีที่หลายคนคิดว่ามีแค่สีส้ม แต่จริงๆ แล้ว มีทั้งสีส้ม แดง เหลือง ขาว และม่วง นิยมนำมาใช้รับประทานเป็นอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบดิบ คั้นน้ำ ผ่านการปรุงสุกหรือใช้ปรุงเป็นขนม โดยแครอทที่มีหลายสีก็จะมีรสชาติและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน

เริ่มจากที่คุ้นกันอยู่แล้วอย่างสีส้มกันก่อน

  • แครอทสีส้ม หรือ “Orange Carrot” มีเบต้าแคโรทีนสูงที่สุด ซึ่งเจ้าเบต้าแคโรทีนนี้เป็นเม็ดสีช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีเยี่ยม
  • แครอทสีขาว หรือ “Lunar White Carrot” อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก  รวมถึงไฟเบอร์ ที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และยังมีสารสำคัญคือสาร “ฟอลคารินอล” (falcarinol) ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งอีกด้วย
  • แครอทสีเหลือง หรือ “Solar Yellow Carrot” อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนและลูทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย จึงอาจมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตาได้
  • แครอทสีแดง หรือ “Scarlet Red Carrot” เป็นแครอทชนิดที่มีไฟเบอร์ ไบโอติน โพแทสเซียม วิตามินเค วิตามินบี 6 วิตามินซี และโมลิบดีนัม (Molybdenum) มากสุดๆ จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ เพื่อกำจัดสารพิษบางชนิดออกจากร่างกาย และยังมีแคโรทีนอยด์ และแอนโธไซยานินสูง อาจช่วยรักษาอาการอักเสบและโรคอ้วนได้

            โดยรวมแล้วแครอทแต่ละสายพันธุ์ช่วยอะไรบ้าง?

  1. บำรุงสายตา โดยเฉพาะเนื้อเยื่อชั้นในของดวงตา หรือ เรติน่า จึงช่วยให้คุณภาพการมองเห็นได้รับการดูแลอย่างดี
  2. ป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะการก่อตัวของมะเร็งปอด เพราะในแครอทเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟาลคารินอล
  3. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบไหลเวียนของเลือด เนื่องจากสารในแครอท จะเข้าไปกำจัดไขมันที่เกาะสะสมอยู่ในเส้นเลือด ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
  4. รักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือด เพราะแคโรทีนอยด์ ในแครอทจะเข้าไปช่วยรักษาสมดุลระดับน้ำตาลในเส้นเลือด
  5. ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานให้กับระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
  6. แครอทมีฤทธิ์ช่วยในการขับถ่ายพยาธิได้ด้วยและยังเป็นการรักษาที่ไม่มีสารเคมีตกค้างในร่างกาย รับรองเลยว่า แครอทเป็นยาที่ปลอดภัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ไม่ว่าจะเป็นแครอทสีไหนๆ จะกินเป็นอาหารหลักหรือของว่างเพื่อสุขภาพก็ได้ประโยชน์ทั้งนั้น  แต่จะต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมด้วยนะคะ นั่นคือ ครึ่งถ้วยต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับ พลังงาน 25 แคลอรี่, คาร์โบไฮเดรต 6 กรัม, โปรตีน 0.5 กรัม, ไฟเบอร์ 2 กรัม, น้ำตาล 3 กรัม รวมถึงวิตามิน และแร่ธาตุ ตามที่ร่างกายควรได้รับคือ  วิตามินเอ 73%, วิตามินซี 5%, วิตามินเค 9%, โพแทสเซียมและไฟเบอร์ 8%, แคลเซียม และธาตุเหล็ก 2% ค่ะ