พืชหัวอย่างเผือกบางทีก็สร้างความหนักใจให้เราๆ ท่านๆ เหมือนกัน เพราะกว่าจะได้มาปรุงเป็นอาหาร หรือทำขนมก็ต้องผ่านด่านตั้งมากมาย เริ่มตั้งแต่เลือกซื้อ ปอกเปลือก หรือการเช็คให้ชัวร์ว่าสุกจริงแบบกินไปไม่มวนท้อง วันนี้ KC Fresh ไล่เรียงเทคนิกต่างๆ มาฝากกัน
เริ่มที่การเลือก “เผือก”
ส่องให้แน่ใจว่าเผือกหัวนั้นต้องตาต้องใจจริงหรือเปล่า นั่นคือ ผิวเรียบ ไม่มีรอยแมลงเจาะ จากนั้นหยิบขึ้นมาวางบนมือเพื่อวัดน้ำหนักด้วยความรู้สึก เผือกที่ดีควรมีน้ำหนักกลางๆ ไม่หนักเหมือนตอนที่เลือกหัวกะหล่ำปลี หรือเบาเกินไปจนรู้สึกว่ากลวงๆ เมื่อได้แล้วเทสว่าเนื้อแน่นดีไหมด้วยการใช้นิ้วมือกดลงไป เผือกที่ดีคือเมื่อกดแล้วเนื้อไม่ยุบตามนิ้ว เพียงเท่านี้ก็จะได้เผือกที่ไม่แก่ เนื้อเนียน แต่ถ้าเลือกเผือกที่หั่นสำเร็จแล้ว ให้ดูว่าเนื้อเผือกนั้นมีเส้นใยสีม่วงอยู่มากๆ จะดีที่สุด
ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกเผือกอาจไม่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่เลือกซื้อ เพราะเปอร์เซนต์จะเลือกได้ดี ต้องจับเผือกหลายๆ ลูก ไม่ฟันธงฉับเลือกเผือกในลูกแรกที่ปักใจ
ล้าง “เผือก” ให้ดีไม่ใช่แค่ผิวภายนอก
เทคนิกการล้างเผือกที่ควรใส่ใจไม่ใช่การนำน้ำสะอาดไปล้างคราบดินหรือคราบฝุ่นที่ผิวภายนอกเท่านั้น แต่คือการล้างหลังปอกด้วย เพราะเปลือกของเผือกจะมียาง ทำให้คันเมื่อสัมผัสโดน ซึ่งถ้าปอกไม่เป็น เวลานำมาปรุงอาหารรับประทานจะเกิดอาการคันได้ ซึ่ง KC Fresh หาวิธีปลอดภัยมาฝาก 2 ทาง ดังนี้ค่ะ
แต่ถ้าใครที่พลาดไปโดนยางเผือกแล้วละก็ ให้ถูยางออกด้วยขิงสด แล้วอาการแพ้ยางจะค่อยๆ ทุเลาลงค่ะ
“เผือก” สุกจริงพร้อมกินหรือยัง
แค่นำปลายมีดหรือไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเนื้อ หากจิ้มไม่เจอเนื้อแข็งๆ แปลว่าสุกเรียบร้อยดี แต่ถ้าจิ้มลงไปแล้วยังรู้สึกว่าจิ้มยาก นั่นแปลว่าต้องปรุงต่ออีกหน่อย เพื่อเผือกจะได้สุกอย่างที่ต้องการ
ปิดท้ายกับคำถามที่หลายคนอยากรู้ว่า สรุปแล้วกินเผือกดีไหม ลองพิจารณาจากประโยชน์เหล่านี้แล้วตัดสินใจได้เลยค่ะ
ข้อมูล : https://medthai.com/ , https://www.maeban.co.th/ และ https://veggiepedia.greenery.org/